ประชาชาติธุรกิจ,
15 มกราคม 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 3549 (2749), หน้า 4
|
"ทักษิณ"ปั้นอีก4เมืองใหม่ คุมจ.นครนายก2.5แสนไร่
"ทักษิณ" เล็งสร้างเมืองใหม่อีก 4 ทำเลรอบ กทม. ส่วนเมืองใหม่นครนายกโครงการนำร่องฉลุย ออก พ.ร.ฎ. 2 ฉบับรวด เปิดทางกรมโยธาธิการและผังเมืองลงสำรวจ และเตรียมเวนคืน 2.5 แสนไร่ "บ้านนา-วิหารแดง-แก่งคอย" แจ็กพอต กระทบ 2 หมื่นครัวเรือน
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้าประเทศจะพัฒนาก้าวหน้าไปมาก มีจำนวนประชากรมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น ต้องพิจารณาหาพื้นที่ขยายเมืองและสร้างเมืองใหม่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลจะหาพื้นที่ลักษณะเดียวกับที่ จ.นครนายก โดยรอบกรุงเทพมหานครอีก 4 พื้นที่เป็นอย่างน้อย เพื่อพัฒนารูปแบบเมืองให้เป็น satellite town ในระยะต่อไป โดยให้โครงการที่นครนายกเป็นโครงการนำร่อง
ในที่ประชุม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการเมืองใหม่ ได้รายงานความคืบหน้าพร้อมขออนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกา 2 ฉบับ เพื่อการเวนคืนที่ดิน และพระราชกฤษฎีกาประกาศเขตสำรวจพื้นที่เพื่อดำเนินโครงการจัดตั้งเมืองใหม่ เพื่อเปิดทางให้กรมโยธาธิการและผังเมืองเข้าไปสำรวจพื้นที่จำนวน 2.5 แสนไร่ ในบริเวณ อ.บ้านนา จ.นครนายก อ.วิหารแดง และ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี รวมทั้งหมด 11 ตำบล ก่อนที่จะกำหนดพื้นที่สร้างเมืองใหม่จำนวน 5.8 หมื่นไร่ รองรับประชาชน 3.5 แสนคน
นายวิษณุรายงานว่า จ.นครนายก ได้รับเลือกให้เป็นพื้นที่สร้างเมืองใหม่เพราะมีจุดแข็งประกอบด้วย ใช้เวลาเดินทางจาก กทม.เพียงแค่ 1 ชั่วโมง คิดเป็นระยะทาง 93 กิโลเมตร ห่างจากสระบุรี 37 กิโลเมตร มีเส้นทางคมนาคมหลายรูปแบบ มีพื้นที่ว่างมากพอ มีประชากรน้อย เป็นพื้นที่อยู่อาศัยใกล้เมืองหลวง สะอาด ไม่มีอุตสาหกรรมที่เป็นมลพิษ มีธรรมชาติสวยงาม มีพื้นที่หลายระดับ ทั้งภูเขา น้ำตก ลุ่มน้ำ เป็นแหล่งธุรกิจ สามารถสร้างเป็นเมืองไอที ธุรกิจการเงิน มหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หอประชุมนานาชาติ ศูนย์ราชการเท่าที่จำเป็น โรงแรม และศูนย์แสดงสินค้า ฯลฯ ได้
สำหรับวิธีการจัดหาที่ดินเพื่อสร้างเมืองใหม่ จะใช้วิธีการเวนคืน ซื้อจากประชาชน และดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดรูปที่ดิน ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภา หรืออาจใช้วิธีการแลกเปลี่ยนที่ดินกับเอกชน ซึ่งหลังจากมีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับแล้ว จะมีการตั้งคณะกรรมการอำนวยการการสำรวจศึกษาและออกแบบ พร้อมทั้งจัดตั้งบรรษัทพัฒนาเมืองใหม่ขึ้น เช่นเดียวกับประเทศมาเลเซีย โดยเจ้าของที่ดินเดิมสามารถซื้อ-ขายและเช่าที่ดินได้ตามปกติ แต่หากดำเนินกิจการที่จะกระทบกับระบบผังเมืองและสิ่งแวดล้อม ต้องแจ้งหรือขออนุญาตจากทางการก่อน เช่น การสร้างโรงงาน การสร้างอาคารสูง อาคารชุด
ส่วนราคาที่จะใช้ในการเวนคืนจะใช้ราคา ณ วันที่พระราชกฤษฎีกาบังคับใช้ และมีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวหากไม่มีการดำเนินการจะหมดอายุบังคับใช้ใน 4 ปี จากนั้นจะต้องออกพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่
ในการดำเนินการ คาดว่าจะมีผู้ได้รับผลกระทบประมาณ 1-2 หมื่นครอบครัว เนื่องจากพื้นที่บางส่วนของเมืองใหม่อยู่ในเขตเทศบาลบ้านนา และเทศบาลวิหารแดง
นายเนวิน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ในจำนวนที่ดิน 5.8 หมื่นไร่ที่จะเป็นที่ก่อสร้างเมืองใหม่ อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.) ประมาณ 2 หมื่นไร่ ส่วนในพื้นที่ที่จะประกาศครอบคลุมนอกเหนือจาก 5.8 หมื่นไร่ อยู่ในเขต ส.ป.ก.ประมาณ 1 หมื่นไร่ ในจำนวนนี้มีเพียงแค่ 6 พันไร่ที่อาจจะต้องกันเป็นพื้นที่แนวเขตเมืองใหม่
|