เทคโนโลยีชาวบ้าน,
วันที่ 01 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ปีที่ 16 ฉบับที่ 324, หน้า 56 |
รายงานพิเศษ พานิชย์ ยศปัญญา มะยงชิดทูลเกล้า อีกหนึ่งของดี นครนายก
นครนายก เป็นจังหวัดที่น่าอยู่อาศัยไม่น้อย ทั้งนี้เพราะอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางความเจริญทางด้านวัตถุ อย่างกรุงเทพมหานคร หากพิจารณาทางด้านภูมิประเทศ จังหวัดนี้มีความหลากหลาย นับตั้งแต่ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่ของเขาใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร จากนั้นพื้นที่ค่อย ๆ ลาดลง จากสูงจนกลายเป็นที่ราบลุ่ม มีคู คลอง หนองบึง ด้วยเหตุฉะนี้เอง ถึงแม้พื้นที่ไม่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่น แต่ถือว่าจังหวัดนี้เป็นอู่ข้าวอู่น้ำ
ด้านการเกษตรอื่น ๆ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย
เนื่องจากนครนายก มีแหล่งน้ำ จึงมีชื่อเสียงทางด้านปลาช่อน ทุกปีมีการจัดงานประจำปีสร้างชื่อเสียงให้ไม่น้อย
พืชสวน นครนายก ไม่เป็นรองจังหวัดอื่น ผลผลิตที่เห็นกันอยู่ประจำคือ เงาะ ทุเรียน มะม่วง ไผ่ตง และที่ฮิตสุด ๆ นั้นคือ พืชตระกูลมะปราง ทุกปีซึ่งเป็นต้นฤดูร้อน มักมีงานให้คนได้ไปเลือกซื้อเลือกหาผลผลิตกัน
จังหวัดนครนายก มีการปลูกพืชตระกูลมะปรางใกล้เคียงกับทางจังหวัดพิจิตร สุโขทัย และอุตรดิตถ์ ทั้งนี้เพราะถิ่นฐานเดิมของพืชตระกูลนี้ อยู่แถบกรุงเทพมหานคร และนนทบุรี จากนั้นกระจายไปตามลำน้ำ เป็นการแพร่พันธุ์ทวนกระแสน้ำ สมัยเก่าก่อน ผู้คนใช้เรือแทนที่จะใช้รถ เรือวิ่งในน้ำ แทนที่จะวิ่งตามถนนเมื่อมีการสัญจรไปตามลำน้ำ สิ่งดี ๆ ก็ถูกนำขึ้นไปด้วย แล้วก็ปลูกไว้ไม่ไกลจากริมฝั่งน้ำมากนัก
พืชอย่างหนึ่งที่มีการกระจายพันธุ์ในลักษณะเดียวกับมะปรางคือ ส้มเกลี้ยง
ส้มเกลี้ยง มีปลูกมากครั้งแรกทางฝั่งธนบุรี จากนั้นก็ถูกนำขึ้นไปทางเรือ ปลูกมากที่นครสวรรค์ พิจิตร ส่วนหนึ่งทวนไปกับสายน้ำยม แม่น้ำวัง จุดสุดท้ายมีปลูกมากที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง
หากต้องการศึกษาประชากรส้มเกลี้ยง ต้นฤดูหนาวมีจำหน่ายที่ท่ารถ อำเภอเถิน แถบจังหวัดพิจิตรก็มีปลูกมาก ซึ่งทางศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร กรมวิชาการเกษตร เคยศึกษาเอาไว้
ที่นี้มาดูมะปรางกันบ้าง มีหลักฐานการปลูกมะปรางต้นขนาดใหญ่ อยู่ริมน้ำน่าน แถบอำเภอตรอน อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
ส่วนที่ริมแม่น้ำนครนายก ที่วัดแห่งหนึ่ง มีต้นมะปรางขนาดใหญ่ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น
แน่นอนเหลือเกิน สมัยเก่าก่อน สิ่งที่ดี ๆ มักนำไปถวายพระ เมื่อพระท่านได้ฉันก็นำเมล็ดเพาะปลูกไว้ เนื่องจากปลูกด้วยเมล็ด จึงพบว่ามะปรางมีความหลากหลาย ทั้งรูปทรงของผลและรสชาติ
ปัจจุบัน จึงมีการแบ่งพืชตระกูลมะปรางออกเป็น มะปรางหวาน มะยงชิด มะยงห่าง และกาวาง
มะปรางหวานนั้น พบว่า ผลมีขนาดเล็ก เมล็ดโต เนื้อน้อย รสชาติหวานสนิท มีเหมือนกันที่พบว่า มะปรางผลเล็ก แต่รสชาติเปรี้ยวจี๊ด ส่วนใหญ่ปลูกด้วยเมล็ด ไม่ค่อยมีการขยายพันธุ์ด้วยวิธีสมัยใหม่ คือทาบกิ่งและเสียบยอด
มะยงชิด เป็นพืชตระกูลมะปราง ที่ผลขนาดใหญ่ และถือว่า ปัจจุบันสร้างรายได้ให้กับผู้ปลูกมากกว่าอย่างอื่น ในบรรดาญาติพี่น้องตระกูลเดียวกัน มะยงชิดมีเมล็ดเล็ก เนื้อมาก เสี้ยนน้อย รสชาติหวาน มีเปรี้ยวผสมอยู่บ้าง
มะยงชิดบางสายพันธุ์ มีขนาดเท่าไข่ไก่พันธุ์ ซึ่งใหญ่กว่าไข่ไก่แจ้อย่างแน่นอน
มะยงห่าง ลักษณะภายนอกใกล้เคียงกับมะยงชิด แต่ต่างกันที่รสชาติ คือเปรี้ยวเสียมาก มีหวานผสมอยู่เพียงเล็กน้อย มะยงห่างไม่ค่อยอยู่ในทำเนียบการปลูกเพื่อการค้า
สุดท้าย กาวาง รูปลักษณ์ภายนอกเหมือนมะยงชิด และมะยงห่าง แต่มีรสเปรี้ยวจัดใกล้เคียงกับมะดัน กาที่หิวโซ เห็นสีเหลืองสวยของไม้ผลชนิดนี้ ลองจิกเพื่อลิ้มรสดู ต้องรีบวาง จนไม้ผลลักษณะอย่างที่แนะนำมาเรียกว่า "กาวาง"
เนื่องจากมะยงชิด เป็นไม้ที่ได้รับความนิยม จึงมีการเสาะหาสายพันธุ์ที่ดี ซึ่งพบอยู่เป็นจำนวนมาก คุณทวีศักดิ์ ชัยเรืองยศ เป็นผู้หนึ่งที่เสาะหาเรื่องราวมาเล่าสู่กันให้ได้รับรู้ แหล่งมะยงชิดที่สำคัญของบ้านเรา อยู่ที่สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิจิตร อ่างทอง นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี เป็นต้น
มะปรางหวานนั้น เนื่องจากผลเล็ก จึงไม่นิยมขยายพันธุ์ จึงมีเฉพาะต้นเดิมเท่านั้น แต่ต้นเดิมก็อายุยืน เป็น 100 ปี ทรงพุ่มมะปรางนั้นสวยงาม โดยเฉพาะต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ด ช่วงที่มีผล พบว่า ผลสีเหลืองสวยอร่าม เต็มต้นไปหมด
มะยงห่าง อยู่ในข่ายเดียวกับมะปรางหวาน ส่วนกาวาง หากขึ้นอยู่ในที่ดินที่ต้องใช้ประโยชน์ มักจะถูกขวานและมีดโค่นลงมาทำฟืนเสียส่วนใหญ่
พืชตระกูลมะปราง ออกให้คนได้ลิ้มรส ราวเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม
ตลาดในแหล่งที่กล่าวมา มักพบเห็นผลจำหน่ายอยู่มีขนาดเล็ก
ผลผลิตส่วนใหญ่ ที่มีขนาดใหญ่ มักมีการขายตรง รวมทั้งซื้อกันเป็นของฝาก
ผลมะยงชิดยังมีราคาแพงอยู่ เข้าทำนองคนซื้อไม่ได้กิน คนกินไม่ได้ซื้อ
ทีมข่าวเทคโนโลยีชาวบ้านก็เช่นเดียวกัน ผลผลิตกิโลกรัมละ 200-300 บาท เหลือบดูแล้ว ราคาแพงกว่าแอปเปิ้ล ยามใดที่อยากลิ้มรสมะยงชิด ก็ออกตระเวนเยี่ยมคนรู้จักที่ปลูกมะยงชิดกัน ชิมกัน 2-3 ลูก พอให้พูดได้ว่า ปีนี้ได้ชิมแล้ว ส่วนจะกินกันเป็นเรื่องเป็นราว เหมือนอย่างกินกล้วยกินขนุนนั้น ไม่ค่อยปฏิบัติกันนัก เข้าทำนองรู้จักอยู่รู้จักกิน
มะยงชิดทูลเกล้า ที่นครนายก
นครนายก มีปลูกมะยงชิดได้ผลดีหลายรายด้วยกัน แต่ที่ลือลั่นและยืนยงมากที่สุดคนหนึ่ง เห็นจะได้แก่ คุณวชิระ โสวรรณะตระกูล เกษตรกร อยู่บ้านเลขที่ 153 หมู่ 3 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก 26000
ผู้ที่อยู่ในแวดวงจะรู้จักสวนคุณวชิระดี ในนาม สวนละอองฟ้า 2 ยาวนานทีเดียว สำหรับพัฒนาการของสวนละอองฟ้า ซึ่งมีตั้งแต่ละอองฟ้า 1-3
คุณวชิระ เล่าว่า นายชม โสวรรณะตระกูล พ่อของตนเองซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ เล็งเห็นว่า ทุเรียนทางเมืองนนท์และกรุงเทพฯ บางส่วนสูญพันธุ์แน่ จึงมีการรวบรวมพันธุ์ไปปลูกไว้ที่ตำบลเขาพระ อำเภอเมืองนครนายก (ใกล้กับวังรี รีสอร์ท)
ยุคสมัยก่อน การปลูกทุเรียนเป็นไปด้วยความยากลำบาก แต่นายชมและลูก ๆ ก็ฟันฝ่าอุปสรรคมาได้ จนสามารถรักษาพันธุกรรมทุเรียนไว้ได้มากกว่า 40 สายพันธุ์ เป็นมรดกล้ำค่าของแผ่นดิน ที่หายากมาก
ประสบการณ์อย่างหนึ่งของคุณวชิระนั้น มีอยู่ปีหนึ่งฝนแล้งขนาดหนัก นายชมให้ลูกไปเสาะหาน้ำมารดต้นทุเรียน ซึ่งต้องไปแบ่งน้ำจากแหล่งน้ำของชาวบ้าน บางครั้งมีการกระทบกระทั่ง แทบต้องลงแรงกัน
ลูก ๆ เกรงว่าจะมีการเลือดตกยางออก จึงเข้าหารือกับพ่อ
นายชมพูดกับลูก ๆ ว่า "ไม่เป็นไร เอาต้นทุเรียนไว้ก่อน"
นายชมเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่สวนทุเรียนยังอยู่ รู้จักกันดีในนาม สวนละอองฟ้า 1
ลูก ๆ ของนายชม ออกเรือนสร้างงานกันหลายรูปแบบ คุณวชิระออกไปทำสวนมะยงชิด ในนามสวนละอองฟ้า 2
น้องคุณวชิระ ปลูกทุเรียน มะม่วง เงาะ ดาหลา และขิงแดง รู้จักกันในนาม สวนละอองฟ้า 3
เหตุที่คุณวชิระไม่ได้ดูแลสวนทุเรียนนั้น นายชมมองว่า คุณวชิระ มีแววที่จะพัฒนาที่ดินตรงสามแยกสาริกาได้ จึงมอบที่ดินผืนใหม่ให้ ซึ่งเป็นจริงอย่างที่นายชมคาดคะเน เพราะคุณวชิระสร้างงานปลูกมะยงชิดอย่างได้ผล
ปัจจุบัน เขามีมะยงชิดพันธุ์ทูลเกล้า แก้วกลางดง และแม่ระมาด ผลผลิตที่มี เป็นที่ถูกใจของผู้ซื้อไม่น้อย
ทูลเกล้าดีอย่างไร
คุณวชิระแนะนำมะยงชิดสายพันธุ์ต่าง ๆ ดังนี้
มะยงชิดทูลเกล้า เป็นพันธุ์ดั้งเดิมของจังหวัดนนทบุรี ผลเมื่อสุกมีสีเหลืองออกแดง ใส ทรงรูปไข่ เนื้อมาก เมล็ดเล็ก เปลือกหนา เนื้อแข็ง ผลเคยคัดได้ 10 ผล ต่อกิโลกรัม แต่โดยทั่วไปมีขนาด 12-15 ผล ต่อกิโลกรัม
แก้วกลางดง สายพันธุ์ไปจากนนทบุรี ผลใกล้เคียงกับทูลเกล้า คุณสมบัติเด่นที่พบอยู่คือ เนื้อแข็ง เมื่อสุกผลสีส้ม ไม่ออกแดงอย่างทูลเกล้า
แม่ระมาด สายพันธุ์นี้ นายชมซื้อมาจากแม่ค้าที่เมืองนนท์ ชื่อ คุณระมาด จำนวนที่ซื้อมาราว 50 ผล เมื่อเพาะแล้วได้ต้นที่คุณสมบัติดีเด่นเพียง 1 ต้นเท่านั้น จึงตั้งชื่อว่า แม่ระมาด คุณสมบัติแม่ระมาด ไม่โดดเด่นเท่าทูลเกล้านัก
พระเอกของสวนนั้น คุณวชิระบอกว่า เห็นจะได้แก่ทูลเกล้า ซึ่งต้นที่อายุ 5 ปี มีความสมบูรณ์ เคยเก็บผลผลิตได้ต้นละ 30-50 กิโลกรัม ราคาที่ขายนั้น เคยขายได้กิโลกรัมละ 200 บาท บางปีผลผลิตมีน้อย ขายได้ราคามากกว่านี้
ปลูกและดูแลอย่างไรให้ได้ผล
คุณวชิระแนะนำตั้งแต่เริ่มต้นในการปลูกมะยงชิดว่า งานขยายพันธุ์ต้องใช้วิธีสมัยใหม่ นั่นก็คือ การทาบกิ่ง ซึ่งจะได้ลักษณะตรงตามพันธุ์
สมัยก่อนทาบกิ่งแล้วชำ จากนั้นปลูก ถือว่าเป็นการเพียงพอ แต่ปัจจุบันไม่เพียงพอเสียแล้ว
คุณวชิระแนะนำว่า เมื่อได้ต้นทาบกิ่งปลูกชำในกระถาง ให้ถอนต้นตอปลูกตามขอบกระถาง 3 จุด ด้วยกัน จากนั้นทำคล้ายการทาบกิ่ง ซึ่งเรียกกันว่าการเสริมรากนั่นเอง การเสริมรากเข้าไป 3 ต้น เรียกกันว่า เสริมเข้าไป 3 ขา
การขยายพันธุ์ในลักษณะอย่างนี้ ช่วยให้การปลูกมีความแข็งแรง ให้ผลผลิตเร็ว
กรณีเกษตรกรที่ปลูกกิ่งทาบลงดิน สามารถเสริมรากเข้าไปได้ โดยปลูกต้นใหม่รอบ ๆ เมื่อต้นโตได้ที่ก็เสริมรากเข้าไป
รากช่วยให้การหากินดีขึ้น ต้นจะเจริญเติบโตดีกว่าต้นทั่วไป
ดิน ที่คุณวชิระปลูกมะยงชิด ไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์นัก แต่เจ้าของแก้ไขโดยใส่ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก เป็นการปรับปรุงบำรุงดิน
"ที่นี่ ไม่ค่อยใช้ปุ๋ยเคมี ส่วนสารเคมีไม่ใช้นานแล้ว ดีที่สุดปุ๋ยชีวภาพ เราทำเอง" คุณวชิระบอก
แนวทางหนึ่ง ที่ทำแล้วได้ผลดีมาก คือการปลูกพืชบำรุงดิน
คุณวชิระไปที่สถานีพัฒนาที่ดินนครนายก ได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ว่า ควรปรับปรุงบำรุงดินด้วยปุ๋ยพืชสด เขาเลือกถั่วพร้ามาปลูกรอบ ๆ ต้นมะยงชิดที่ปลูกไว้ เมื่อมีผลผลิตส่วนหนึ่งเป็นเมล็ดไว้ทำพันธุ์ ส่วนหนึ่งตัดให้ทับถม จึงเป็นปุ๋ยที่ดีมาก ต้นเติบโตแตกต่างจากต้นที่ไม่ได้ทำ
ซื้อขายอย่างไร
ทำเลที่ตั้งของสวนละอองฟ้า 2 อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองนครนายก หากมุ่งจากตัวเมือง ถึงสามแยกสาริกา เลี้ยวขวาไปทางวังตะไคร้ สวนคุณวชิระอยู่ซ้ายมือ
หากตรงไป เพื่อไปยังน้ำตกสาริกา สวนคุณวชิระอยู่ขวามือ
ด้วยทำเลที่เหมาะสม ใครที่ผ่านไปมา เห็นผลผลิต จึงแวะซื้อ จนผลผลิตไม่ต้องนำไปจำหน่ายที่ไหน
เรื่องของกิ่งพันธุ์ คุณวิไล หรือคุณแดง ภรรยาของคุณวชิระ จะนำกิ่งพันธุ์ที่มีอยู่ ตระเวนไปจำหน่ายไกล ๆ ในงานเกษตร เช่นที่ชลบุรี กรุงเทพฯ และทางภาคเหนือหลายจังหวัด ทำให้มะยงชิดของสวนละอองฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี
ผู้สนใจ ถามไถ่กันได้ตามที่อยู่ หรือโทร. (037) 328-129 และ (01) 481-4287
แนวทางการผลิตมะยงชิดของคุณวชิระในปัจจุบัน เน้นเรื่องของธรรมชาติ ไม่ได้ใช้สารเคมี
ใครที่อยากลิ้มรส ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็ลองถามไถ่กันได้
|