คนกรุงเริงร่า "ทักษิณ" สั่งทุ่ม 4 แสนล้านบาท ให้ สนข.เดินหน้าสร้างโครงข่ายระบบรางรถไฟรวบ กทม.ปริมณฑล 26 เส้นทาง พร้อมสั่ง "วิษณุ" รื้อระบบการประมูลใหม่ ใช้ระดับราคากลางเป็นเกณฑ์ ตั้งเงื่อนไขใครเสนอราคาต่ำสุดรับไปเลย แต่จะเพิ่มค่าปรับเป็นเท่าตัวตีกันผู้รับเหมาทิ้งงาน

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ว่า ได้อนุมัติโครงข่ายขนส่งระบบรางใน กทม.และปริมณฑล มูลค่า 4 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่รัฐจะเป็นผู้ลงทุน โดยเอกชนเข้าร่วมส่วนหนึ่ง

"ผมได้ให้นโยบายไปว่า ขอให้ยกความเดือดร้อนประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ควรคิดว่าจะขาดทุน ถ้าเงินไม่พอก็ให้บอกรัฐบาล" นายกฯ กล่าว

ส่วนการประกวดราคา ขอให้คำนวณราคาต่อหน่วยเป็นตัววัดในการเจรจาต่อรองกับเอกชน เพื่อไม่ให้มีปัญหาราคาเหยิบเหย้อ ต้นทุนมีแพงกว่า เนื่องจากต้องรอคอยการประกวดราคาที่ยาวนาน

ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ นายกฯ ได้สั่งให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ไปศึกษาระบบการประกวดราคาใหม่ โดยใช้วิธีกำหนดระดับราคาอ้างอิง (Bench mark) เช่น ราคากลางตั้งไว้ไม่เกิน 800 ล้านบาท ในการประมูลก็ให้ผู้ที่เสนอราคาต่ำสุดก็ได้ไป แต่มีเงื่อนไขว่า จะต้องไปขึ้นค่าปรับ กรณีสร้างเสร็จไม่ทัน เพื่อป้องกันเสนอราคาต่ำๆ เพื่อให้ได้งานเท่านั้น ซึ่งบางรายยอมเสียค่าปรับเป็นปีๆ โดยมีรายงานว่า อัตราค่าปรับที่แจ้งในที่ประชุมอยู่ที่ 0.25% จะขึ้นเป็น 0.5% หรือขึ้นเท่าตัวทีเดียว

นอกจากนี้ นายกฯ ยังเสนอแนวคิดให้ส่งเสริมการใช้รถซิตี้คาร์ หรือรถเครื่องยนต์เล็ก นั่งได้ 4-5 คนมากขึ้น โดยอาจมีมาตรการจูงใจด้านภาษีให้ ซึ่งจะหารือร่วมกับกระทรวงการคลังอีกครั้ง

ส่วนในของการประชุม ได้อนุมัติโครงการโครงข่ายระบบราง วงเงินกว่า 2.7 แสนล้านบาท ถ้ารวมราคาตัวรถ จะอยู่ที่ 3.9 แสนล้านบาท โดยเชื่อม กทม.กับปริมณฑล อาทิ บางหว้า-บางแค, พญาไท-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, บางซื่อ-รังสิต, หมอชิต-สะพานใหม่, สำโรง-สมุทรปราการ, บางกะปิ-สามเสน ฯลฯ รวมทั้งสิ้น 26 เส้นทาง เป็นแผนระยะ 6 ปี จนถึงปี 2552 ระยะทาง 296 กิโลเมตร

ดร.คำรบลักขิ์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ที่ประชุม คจร.ได้อนุมัติแผนแก้ไขปัญหาจราจร 4 ระยะคือ 1.การแก้ไขปัญหาทันที เช่น การเดินรถแบบวันเวย์และทูเวย์ และจุดตัดจราจรสี่แยกไฟแดงทั่ว กทม. 2.การจัดระบบเดินรถที่เหมาะสมในระยะ 1 ปี เช่น แผนสร้างถนนทางข้ามแยก 3.แผนระยะยาว 6 ปี เช่น การพัฒนารถไฟฟ้า 150 กม. งบลงทุน 397,800 ล้านบาท

4.สร้างทางด่วนใหม่ 4 เส้นทางคือ ทางด่วนขั้นที่ 2 บางนา-สมุทรปราการ ทางด่วนศรีรัช-ดาวคะนอง ทางด่วนรามอินทรา-บางนา และทางด่วนพญาไท-พุทธมณฑล งบประมาณ 8,400 ล้านบาท รวมถึงระยะยาว เช่น การขยายสร้างเมืองใหม่รอบกรุง ฯลฯ

พลเอกเชษฐา ฐานะจาโร รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) เผยกรณีชาวบ้านคัดค้านโครงการศูนย์วิจัยนิวเคลียร์องครักษ์ จ.นครนายก ของสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ว่า ยินดีรับฟังหากชาวบ้านจะเข้ามาพบตน แต่ต้องอยู่บนหลักของเหตุและผล เพราะได้กำชับให้ ปส.เอาข้อเท็จจริงออกมาพูดกันจะได้เลิกถกเถียงกัน ซึ่งโครงการนี้เป็นการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอนาคต

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยว่า พล.อ.เชษฐา ชี้แจงว่าได้ดูแลเรื่องนี้แล้ว และคิดว่าไม่มีปัญหาสามารถที่จะบริหารได้ และได้กำชับให้นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี เตรียมหาแนวทางอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ ถ้ามั่นใจทางวิชาการว่าโครงการนี้ไม่เดือดร้อนจริง

ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล เลขานุการ รมว. วท.เผยภายหลังเชิญคณะผู้บริหาร ปส.เข้าพบว่าให้ ปส. จำกัดบทบาทที่ชัดเจนว่าจะวิจัยทางด้านการแพทย์เกษตรเท่านั้น และยังเสนอว่าในอนาคตอาจจะให้ชาวบ้านองครักษ์ ที่เจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง สามารถรักษาโรคได้ฟรี รวมทั้งรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจาก ปส.ด้วย.