ประชาชาติ ปีที่ 27 ฉบับที่ 3534 (2734) วันที่ 24 พฤศจิกายน 2546, หน้า 1
|
ทุ่ม 1.6 แสนล้านชุบเมืองใหม่"นครนายก"
เปิดแผนลงทุนเมืองใหม่นครนายก ปัดฝุ่นผลศึกษาชี้รัฐต้องทุ่มงบฯ 1.66 แสนล้านพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบสาธารณูปโภค
ผุดมอเตอร์ เวย์ ต่อขยายด่วนรามอินทราถึงนครนายก และไฮสปีดเทรนเชื่อมสุวรรณภูมิ เผยเริ่มมีนักธุรกิจจากกรุงเทพฯบุกสำรวจราคาที่ดินในพื้นที่
"บ้านนา-วิหารแดง-แก่งคอย" หวังซื้อเก็งกำไรแล้ว
โครงการสร้างเมืองใหม่ให้เป็นเมืองไฮเทค และเมืองเพื่อการอยู่อาศัยปลอดมลพิษ โดยจำลองแบบมาจากทามะ นิวทาวน์ ของญี่ปุ่น ตามแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เริ่มเป็นรูปธรรมขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ นอกจากการเลือกพื้นที่จะชัดเจนขึ้น เพราะจากการศึกษารายละเอียดหลายฝ่ายเห็นว่าน่าจะเลือกพื้นที่ในอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และบางส่วนของอำเภอวิหาร แดง และแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เป็นที่สร้างเมืองใหม่แล้ว ในส่วนของโครงการสาธารณูปโภคที่จะต้องลงทุนเพื่อรองรับก็อยู่ระหว่างดำเนินการควบคู่กันไปด้วย
ผุด "มอเตอร์เวย์-ไฮสปีดเทรน"
ดร.คำรบลักขิ์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ระบบขนส่งที่เตรียมรองรับโครงการเมืองใหม่ 1.5 แสนไร่ในจังหวัดนครนายกนั้น รัฐอาจต้องลงทุนสร้างมอเตอร์เวย์ระหว่างเมือง รถไฟความเร็วสูง และสร้างทางด่วนใหม่ เพื่อรองรับการเดินทางในอนาคต
กล่าวคือ ระบบทางด่วนสายรามอิน ทรา-อาจณรงค์ อาจต้องลงทุนเพิ่มในการก่อสร้างทางด่วนจากรามอินทรา ย่านซอยวัชรพล โดยต่อเชื่อมยาวไปถึงถนนพหลโยธิน-ลำลูกกา ที่เป็นโครงข่ายร่วมกับวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก เส้นทางนี้สามารถสร้างยาวไปถึงนครนายกได้ ในระยะทาง 55 กิโลเมตร แต่ถ้าให้ถึงนครราชสีมา จะมีระยะทางยาวขึ้นเป็น 190 กิโลเมตร
"ถ้าขยายการขนส่งไปถึงโคราช อาจต้องใช้เงินทุน 80,000 กว่าล้านบาท ส่วนจุดปลายทางที่เมืองใหม่นครนายก เรายังไม่ได้ประเมินตัวเลข ต้องคิดกันใหม่"
ส่วนโครงการรถไฟความเร็วสูง จะต้องลงทุนสร้างต่อจากสายมักกะสัน-สนามบินสุวรรณภูมิ โดยผ่านหนองจอก ลาดกระบัง ลำลูกกา แล้วไปบรรจบกับรถไฟสายแก่งคอย-ฉะเชิงเทรา เพื่อเดินทางเข้าเมืองใหม่ที่รัฐเลือก
"ด้านการรองรับจำนวนประชากรนั้น วางไว้ว่า ช่วง 6 ปีแรกจะรับได้ 2 แสนคน และสามารถรับได้เต็มที่ 5 แสนคน โดยรัฐจะต้องลงทุนสร้างถนนใหม่ คิดเป็น 16% ของจำนวนประชากร การลงทุนทั้งหมดขึ้นอยู่กับผลสำรวจที่คณะกรรมการพิจารณาโครงการเมืองใหม่จะสรุปกันอีกครั้ง" ดร.คำรบลักขิ์กล่าว และยืนยันความคิดเห็นส่วนตัวว่า
"กับเมืองใหม่ที่นี่ ผมว่าลงทุนเฉพาะโครงการทางด่วนใหม่ 1 สายกับรถไฟอีก 1 เส้นก็พอแล้ว"
ลงทุนสาธารณูปโภค 1.66 แสนล้าน
รายงานข่าวระบุว่า ก่อนหน้านี้ทาง สจร.หรือสำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรและขนส่ง เคยว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาศึกษาโครงการเมืองใหม่ไว้แล้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ในทำเลเดียวกับที่รัฐบาลปัจจุบันตัดสินใจเลือกลงทุน โดยประมาณการลงทุนตามแผนไว้ ดังนี้
1.ระบบคมนาคมและขนส่งในเมือง เป็นถนนสายประธาน 4,535 ล้านบาท สายหลัก 5,105 ล้านบาท สายรอง 7,490 ล้านบาท สายย่อย 5,400 ล้านบาท และระบบขนส่งสาธารณะ 3,330 ล้านบาท
2.ระบบคมนาคมและขนส่งนอกเมือง ทางหลวงพิเศษและทางด่วน 88,659 ล้านบาท ทางหลวงสายประธาน 1,405 ล้านบาท ทางรถไฟ 8,600 ล้านบาท
3.ระบบสาธารณูปโภคและสาธารณูปการ แยกเป็นน้ำประปา 10,030 ล้านบาท ไฟฟ้า 1,770 ล้านบาท โทรศัพท์และโทรคมนาคม 870 ล้านบาท ระบบระบายน้ำและป้องกันน้ำท่วม 6,750 ล้านบาท ระบบบำบัดน้ำเสีย 6,450 ล้านบาท ระบบกำจัดขยะ 3,180 ล้านบาท อุโมงค์รวมระบบสาธารณูปโภค 6,160 ล้านบาท การศึกษา 2,750 ล้านบาท กีฬา 3,630 ล้านบาท
พัฒนาเมืองใหม่คืนทุนใน 8 ปี
โดยมีการวิเคราะห์ด้านการเงินด้วยว่า หากรัฐลงทุนตามแผนนี้ใน 5 ปีแรกจะไม่มีรายได้จากการขายที่ดิน ซึ่ง 3 ปีแรกจะเป็นเรื่องการเวนคืนที่ดิน ใช้เวลาก่อสร้างถนน 2 ปี และจะได้รับการจัดสรรที่ดินแบบให้เปล่าใน 5 ปีแรก ซึ่งองค์กรผู้รับผิดชอบโครงการต้องระดมเงินทุนถึง 27,774 ล้านบาท
"ในปีที่ 6 คาดว่าจะได้เงินประมาณ 24,354 ล้านบาท ถ้านับจากปีที่ 6 ขึ้นไป องค์กรจะมีรายได้เพียงพอต่อสาธารณูปโภคและการบริหาร โดยไม่ต้องระดมทุน" รายงานข่าวระบุ
อย่างไรก็ตาม ในรายงานระบุว่า โครงการเมืองใหม่จะคืนทุนใน 8 ปี มีเงินสะสม 6,770 ล้านบาท และมีกระแสเงินสดสูงสุด 43,297 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางการเงิน 17.7% ซึ่งชี้ให้เห็นว่าโครงการสามารถระดมเงินกู้มาสร้างเมืองได้ เพราะดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีอยู่ที่ 5.75%
"แต่ความเหมาะสมของจำนวนเงินกู้ รัฐต้องพิจารณาเรื่องเงินคงค้างหนี้สาธารณะด้วย" รายงานข่าวกล่าว และว่า
สำหรับพื้นที่ที่รัฐจะสร้างเมืองใหม่นั้น จากแผนศึกษาเดิมระบุว่า อยู่ในตำบลห้วยแห้ง ท่ามะปราง ชะอม บ้านลำ เจริญธรรม คลองเรือ บ้านพริก ป่าขะ เขาเพิ่ม ศรีกะอาง ซึ่งอยู่ในอำเภอบ้านนา นครนายก ตามโมเดลโครงการนี้จะมีพื้นที่อยู่ติดกับตีนเขาใหญ่ ซึ่งคาบเกี่ยวกับ 2 ตำบล คือ ตำบลห้วยแห้ง และท่ามะปราง ดังนั้นอาจต้องถูกตัดออกไป แล้วขยายออกมาทางอำเภอหนองแค สระบุรี กับอำเภอบ้านนา นครนายก
"บ้านนา-วิหารแดง-แก่งคอย" ตัวเต็ง
นางมนฤดี เวชภูติ หัวหน้าสำนักงานที่ดินจังหวัดนครนายก เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แม้แนวคิดการสร้างเมืองใหม่จะชัดเจนขึ้น แต่ยังไม่ทราบว่าสุดท้ายรัฐบาลจะเลือกพื้นที่ใด เท่าที่ทราบเบื้องต้นมีการคัดเลือกพื้นที่สร้างเมืองใหม่ไว้ 3 อำเภอ แต่ต่อมาเลือกไว้ 2 อำเภอ คือ บ้านนา และแก่งคอย ในจังหวัดสระบุรี แต่ไม่ทราบว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอีกหรือไม่
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวการสร้างเมืองใหม่ไม่ได้ทำให้การซื้อขายที่ดินในบ้านนามีมากขึ้น ถือว่าการซื้อขายเปลี่ยนมือยังเป็นไปตามปกติ คือ ประมาณ 100 แปลงต่อเดือน นางมนฤดีกล่าว
แหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินจังหวัดสระบุรี เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า พื้นที่ที่จะมีการเวนคืนเพื่อสร้างเมืองใหม่ จะอยู่ในอำเภอวิหารแดงบางส่วน โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนที่เชื่อมต่อกับตัวเมืองสระบุรี ซึ่งตอนนี้ทางกรมที่ดินยังไม่ได้มีการสั่งการอะไรลงมา และยังไม่มีสัญญาณของการซื้อ-ขายที่ดินผิดปกติเกิดขึ้น
ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานที่ดินจังหวัดสระบุรี สาขาหนองแค ซึ่งรับผิดชอบอำเภอหนองแค และวิหารแดง กล่าวว่า พื้นที่ในวิหารแดงที่จะสร้างเมืองใหม่จะอยู่ในตำบลคลองเรือ และตำบลเจริญธรรม เป็นพื้นที่คาบเกี่ยวกับอำเภอบ้านนา สำหรับขนาดของพื้นที่ที่จะมีการเวนคืนยังไม่ชัดเจน ในส่วนของราคาประเมินที่ดินทั้ง 2 ตำบลอยู่ที่ 1.2 แสนบาทต่อไร่ โดยที่ดินส่วนใหญ่เป็นที่ดินของเอกชน
ชาวบ้านสับสนข้อมูลเมืองใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจบริเวณที่อยู่ในข่ายของการตั้งเมืองใหม่ทั้งในเขตอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และอำเภอวิหารแดง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี พบว่าความเคลื่อนไหวในการซื้อขายที่ดินยังอยู่ในภาวะปกติ แต่เริ่มมีนักธุรกิจจากกรุงเทพมหานคร (กทม.) เข้าไปสอบถามราคาที่ดินบ้างแล้ว ขณะที่ประชาชนส่วนหนึ่งของอำเภอบ้านนาแสดงความเป็นห่วงว่า เมื่อมีเมืองใหม่เกิดขึ้น จะทำให้วิถีชีวิตตัวเองที่เคยเงียบสงบต้องเปลี่ยนแปลงไป และต้องหาที่อยู่ใหม่ แต่บางคนรู้สึกดีที่ความเจริญจะเข้ามา เพราะจะทำให้เศรษฐกิจของอำเภอบ้านนาดีขึ้น
นายคณีทิป บุณยะเกตุ นายอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอำเภอวิหารแดงซึ่งอยู่ติดดกับอำเภอบ้านนาจะถูกเวนคืนที่ดินเพื่อก่อสร้างเมืองใหม่ด้วยหรือไม่ เนื่องจากยังไม่ทราบแผนงานจากรัฐบาล แต่ถ้าถูกเวนคืนด้วย ทางวิหารแดงก็พร้อมที่จะทำตามนโยบายของรัฐบาล เพราะปัจจุบันวิหารแดงเป็นเมืองที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของแรงงานที่ไปทำงานโรงงานในเขตอำเภอแก่งคอยและอำเภอหนองแค และเป็นเมืองปลอดสารพิษอยู่แล้ว แต่ถ้าไม่อยู่ในเขตเมืองใหม่ วิหารแดงก็จะเป็นเมืองหน้าด่าน รวมทั้งเป็นฐานการผลิตอาหาร และเป็นเส้นทางคมนาคมที่สำคัญจากฝั่งถนนพหลโยธินไปยังฝั่งตะวันออก (เส้นทางสุวรรณศร หินกอง-หนองแค-จังหวัดสระแก้ว)
นายอำเภอวิหารแดงกล่าวอีกว่า ณ วันนี้การซื้อขายที่ดินยังเป็นปกติอยู่ และเป็นไปตามราคาประเมิน เช่น ในเขตเทศบาลไร่ละ 2 ล้านบาท ส่วนนอกเขตเทศบาลเลียบถนนสุวรรณศรไปถึงอำเภอบ้านนา ไร่ละ 1 ล้านบาท ส่วนที่ดินตาบอดไร่ละ 6 หมื่นบาท
ด้านนายเผด็จ สุจเร นายอำเภอแก่งคอย เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบว่าพื้นที่ใดของอำเภอแก่งคอยจะอยู่ในเขตเมืองใหม่ แต่น่าจะเป็นพื้นที่ของตำบลชะอม ซึ่งอยู่ติดกับอำเภอบ้านนา ซึ่งสภาพพื้นที่บริเวณนั้นบางส่วนเป็นเทือกเขาและพื้นที่การเกษตร ไม่มีมลพิษ ส่วนการซื้อขายที่ดินยังปกติ เป็นธรรมชาติที่จะมีการเก็งกำไรจากนักลงทุน แต่เชื่อว่านโยบายรัฐบาลจะสามารถสกัดกั้นการเก็งกำไรได้
|