banner Histdept

Vmenu

ประวัติศาสตร์นครนายก - ข่าวหนังสือพิมพ์ 6 พ.ย. 2546
nayok_news_date
พ.ศ. 2544, 2545, 2546, 2547

  ประชาชาติธุรกิจ, ปีที่ 27 ฉบับที่ 3529 (2729) วันที่ 06 พฤศจิกายน 2546, หน้า 37  

  "สินธานีฯ"หวนคืนวงการจัดสรร ผุดบิ๊กโปรเจ็กต์รังสิตคลอง 5  
ทำเลรังสิต-นครนายกสะเทือน "สินธานีโฮลดิ้ง" เปิดตัวบุกตลาดอสังหาฯ รอบใหม่อย่างเป็นทางการ ปูพรมพัฒนา "สินธานี แกรนด์ วิลล์" โครงการบ้านเดี่ยวย่านรังสิต คลอง 5 เต็มสูบ ประเดิมเฟสแรกบนเนื้อที่ 120 ไร่ วาดแผนพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อดันให้เป็นโปรเจ็กต์ใหญ่ที่สุดริมถนนรังสิต-นครนายก พร้อมขยับรุกผุดบ้านเดี่ยวรูปแบบใหม่ในซอยวัชรพล มั่นใจสู้คู่แข่งได้สบาย

นายสิทธิ ภาณุพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการ บริษัท สินธานีโฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินเจ้าหนี้เสร็จเรียบร้อย แม้บริษัทจะไม่ได้เปิดตัวต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการ แต่เริ่มเข้ามาสานต่องานก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่ชะลอไว้ในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ คือในช่วงปี 2543-2545 พัฒนาและเปิดขายโครงการสินธานี ไพรเวท วิลล่า รูปแบบบ้านเป็นทาวน์เฮาส์ ภายใต้คอนเซ็ปต์บ้านล้อมสวน จำนวน 100 ยูนิต ปิดการขายไปเมื่อต้นปี 2545 จากนั้นได้พัฒนาโครงการสินธานี แกรนด์ วิลล์ รังสิต คลอง 5 โครงการบ้านเดี่ยวเนื้อที่ดิน 52 ตารางวาขึ้นไป ราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท/ยูนิตขึ้นไป ที่ชะลอดำเนินการหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

โครงการดังกล่าวถือได้ว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่โครงการหนึ่งในย่านรังสิต เบื้องต้นบริษัทแบ่งที่ดินมาพัฒนาในลอตแรกจำนวน 120 ไร่ ขณะนี้มีการก่อสร้างสาธารณูปโภคทั้งถนน ไฟฟ้า ประปา สโมสร และคลับเฮาส์ คอร์ตเทนนิส เสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับเปิดขายบ้านในพื้นที่ 60 ไร่แรกให้กับลูกค้า ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีเกินคาด โดยเฉพาะเดือนตุลาคมที่ผ่านมาแค่เดือนเดียวมียอดขายสูงถึงกว่า 40 ล้านบาท มีบ้านที่ก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จพร้อมโอนประมาณ 20 ยูนิต

นายสิทธิกล่าวว่า ปีหน้าจะเป็นปีที่บริษัทเน้นพัฒนาโครงการสินธานี แกรนด์ วิลล์ รังสิต คลอง 5 เป็นหลัก โดยคอนเซ็ปต์โครงการตลอดจนรูปแบบบ้านจะมีความชัดเจนขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะรูปแบบบ้านจะเป็นรูปแบบใหม่ โดยจะปรับปรุงรายละเอียดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องประโยชน์ใช้สอย ดีไซน์ ฯลฯ แต่ราคาขายจะอยู่ในระดับเพียงแค่ 3-4 ล้านบาท/ยูนิตเท่านั้น

โครงการดังกล่าวนี้ นอกเหนือจากจะมีจุดเด่นในเรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ติดถนนใหญ่ และมีการลงทุนก่อสร้างสาธารณูปโภคภายในโครงการมากกว่าโครงการอื่นในทำเลใกล้เคียงกันแล้ว ในอนาคตน่าจะเป็นโครงการที่ใหญ่ที่สุดในย่านรังสิต เพราะยังสามารถขยายพื้นที่โครงการเฟสใหม่ๆ ต่อเนื่องได้อีกมาก

"ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนกับเราหยุด แต่จริงๆ แล้วไม่ได้หยุด เพราะแม้ไม่มีเงินทุนหมุนเวียนมากพอที่จะใช้ก่อสร้างบ้าน เราก็พยายามพัฒนาสาธารณูปโภคภายในโครงการให้แล้วเสร็จ โดยใช้เงินทุนของเราเองล้วนๆ ที่เลือกสร้างสาธารณูปโภคก่อน ก็เพื่อให้ยื่นขออนุญาตจัดสรรได้ เพราะอย่างน้อยลูกค้าที่จองซื้อบ้านไว้จะได้รับโอนที่ดิน"

นายสิทธิกล่าวว่าหลังจากเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2540 บริษัทได้ชะลอพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการในขณะนั้นทั้ง 4 โครงการ ต่อมาในปี 2541-2542 ใช้เวลาในการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นหลัก แต่ไม่ได้ทิ้งธุรกิจอื่นที่เข้าไปลงทุน อย่างเช่น ธุรกิจโรงพยาบาล ได้แก่โรงพยาบาลสินแพทย์ที่บริษัทเป็นผู้ก่อตั้ง โรงพยาบาลวิภาวดี ที่เป็นบริษัทเป็นผู้ถือหุ้น ธุรกิจอพาร์ตเมนต์ ที่มีแนวโน้มดีอย่างมากๆ ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้บริษัทมีรายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง จากนั้นจึงค่อยๆ สานต่อโครงการที่มีขนาดเล็กก่อน เมื่อเห็นว่าธุรกิจอสังหาฯ ฟื้นชัดเจนและบริษัทมั่นใจมากขึ้น จึงเปิดขายโครงการสินธานี แกรนด์ วิลล์ รังสิต คลอง 5

"ปีนี้ช่วงเพียงแค่ 8-9 เดือน เราขายบ้านได้แล้ว 100 กว่ายูนิต คิดเป็นมูลค่าประมาณ 300 กว่าล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้ารายได้จากยอดขายไว้ 400-500 ล้านบาท" นายสิทธิกล่าวและว่า

ปี 2547 นอกจากพัฒนาโครงการสินธานี แกรนด์ วิลล์ รังสิต คลอง 5 ต่อเนื่อง โดยจะเร่งมือก่อสร้างให้เร็วขึ้นกว่าเดิม โดยจะนำพื้นที่บริเวณด้านหน้าโครงการมาพัฒนา เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่สนใจซื้อบ้านในโครงการนี้มากขึ้นแล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะพัฒนาโครงการในย่านใจกลางเมืองแถวซอยวัชรพล รูปแบบโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยวระดับราคาประมาณ 4-7 ล้านบาท เนื้อที่โครงการทั้งหมด 20 ไร่เศษ

สำหรับนโยบายในการดำเนินธุรกิจของกลุ่ม จากนี้ไปจะคอนเซอร์เวทีฟมากขึ้น เพราะช่วงวิกฤตมีโอกาสเรียนรู้ประสบการณ์ต่างๆ มาก จึงต้องการจะเติบโตด้วยลำแข้งของตัวเอง โดยจะทำธุรกิจที่ทำอยู่ให้ดีขึ้น และโตตามความสามารถที่บริษัทและพนักงานทำได้ อย่างไรก็ตาม คงต้องได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินด้วย แต่ถ้าสถาบันการเงินไม่เปิดโอกาสก็คงต้องทำแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเน้นในเรื่องทำเล คอนเซ็ปต์โครงการ การดีไซน์บ้าน สาธารณูปโภค และจะมีจุดขายที่แตกต่างจากโครงการอื่นๆ

"บริษัทถือว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เพิ่งจะฟื้นขึ้น เพราะฉะนั้นจะไม่เร่งให้องค์กรโตรวดเร็วเกินไป เพราะมองว่าบริษัทที่ดีไม่ควรโตด้วยทุน แต่ต้องโตด้วยคน ดังนั้นการเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงไม่ใช่เป้าหมายในตอนนี้หรือในอนาคตอันใกล้นี้" นายสิทธิกล่าว

[Top]

footer ©กองวิชาประวัติศาสตร์ ส่วนการศึกษา โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า