องค์ผู้อำนวยการกองวิชาประวัติศาสตร์มีพระราโชบายให้จัดหลักสูตรการศึกษาวิชาประวัติศาสตร์ โดยทรงคำนึงถึงลักษณะวิชาและประโยชน์ที่นักเรียนนายร้อยพึงจะได้รับเป็นสำคัญ ดังนั้นหลักสูตรและเนื้อหาวิชา ของแต่ละรายวิชาจะมีความสอดคล้องกับการศึกษาในส่วนอื่นๆ ของนักเรียนนายร้อยด้วย เช่น วิชาพื้นฐานอารยธรรมไทย ซึ่งเป็นวิชาบังคับสำหรับนักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 2 มีวิธีการศึกษาและเนื้อหาต่างจาก วิชาพื้นฐานอารยธรรมไทยในสถาบันอุดมศึกษาอื่นอยู่บ้าง กล่าวคือไม่ได้ศึกษาวัฒนธรรมหรือสังคมในเชิงพัฒนาการมากนัก แต่เน้นหนักที่ หน้าที่และบทบาทของวัฒนธรรมที่มีต่อสังคม รวมถึงการศึกษาเรื่องราวของสภาพแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อสังคมและวัฒนธรรม

นอกจากนั้น องค์ผู้อำนวยการกองวิชา โปรดเกล้าฯ ให้เชิญวิทยากรพิเศษที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาวิชาไปบรรยายในหัวข้อสำคัญๆ ในแต่ละรายวิชาด้วย เพื่อช่วยเพิ่มพูนความรู้และเปิดโลกทัศน์ของนักเรียนนายร้อยให้กว้างไกลขึ้น

องค์ผู้อำนวยการกองวิชาประวัติศาสตร์ทรงให้ความสำคัญและเอาพระทัยใส่การพัฒนางานวิชาการของอาจารย์ ในกองวิชาประวัติศาสตร์ เนื่องจากทรงเห็นว่าวัตถุประสงค์และแนวทางการศึกษาของรายวิชาต่างๆ จะบรรลุเป้าหมายได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถ ของอาจารย์และคุณภาพในการถ่ายทอดความรู้ ดังนั้น อาจารย์แต่ละคนจะได้รับมอบหมายให้สอนในรายวิชาที่ผู้สอนถนัด นอกจากนั้น ทรงสนับสนุนให้อาจารย์ในกองวิชาไปสัมมนาทางวิชาการ ซึ่งสถาบันต่างๆ จัดขึ้น และทรงส่งเสริมให้อาจารย์ได้มีโอกาสไปอบรมและศึกษา เพิ่มเติมในต่างประเทศ เช่น

ด้านการวิจัยนั้น องค์ผู้อำนวยการกองวิชาประวัติศาสตร์ทรงสนับสนุนและพัฒนาขีดความสามารถของอาจารย์ โดยส่งเสริมให้ทำงานวิจัย ทางประวัติศาสตร์ เช่น โครงการวิจัย เรื่อง "ประวัติศาสตร์เมืองนครนายก" ขณะนี้งานวิจัยเสร็จเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้น ยังทรงพระราชทานพระราชทรัพย์ ส่งอาจารย์ไปศึกษาค้นคว้าเอกสารเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทยในต่างประเทศ เช่น The National Archives and Records Administration ประเทศสหรัฐอเมริกา และ The Public Record Office ประเทศอังกฤษ